[EXO] KaiHun ✿ เด็กวิดวะ
รบกวนค่ะ!! การุณสนับสนุนคนเขียนด้วยนะค่ะ >> EXO<<
TT อยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด
"แม่ครับ..TT"
"แม่ขอโทษจ้ะ"
ก่อนหน้านี้ผมเอาโน้ตบุ๊คไปให้แม่ยืมใช้ทำงาน ถ้าพีซีของแม่ไม่ตายไปแล้วผมก็คงไม่ต้องเอาโน้ตบุ๊คสุดรักสุดหวงสีชมพูแปร๊ด(?)ของผมให้แม่ยืมหรอกครับ
แม่บอกว่าแม่กำลังพิมพ์แผนการสอนอยู่ดีๆ มันก็ดับ..แล้วเปิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ติดอ่ะ ผมเห็นแม่กำลังจะทุบโน้ตบุ๊คตอนผมเผลอ
ใจแทบสลาย
"แม่ครับ! แม่ทำมันพังแล้วอย่าทำร้ายผมอีกเลยครับ ใจผมจะขาดแล้วนะ สุดรักสุดหวงของผมนะ มีอะไรอยู่ในนั้นตั้งเยอะตั้งแยะ รูปเอย งานเอย เพลงเอย ผมจะไปหาคืนจากไหนล่ะครับ"
"แล้วจะให้แม่ทำยังไงล่ะจ๊ะ แม่ไม่ได้ตั้งใจให้มันพังนะ"
"แม่ช่วยทำอะไรก็ได้แต่อย่าพังมันเลยนะครับ ผมรักเครื่องนี้จริงๆนะ" คุณแม่สุดที่รักของผมยืนนิ่งคิดอยู่นาน นานจนผมแทบจะใจสลายอีกรอบ ครอบครัวผมไม่ใช้วิธีส่งร้านหรือศูนย์ซ่อมเพราะเสี่ยงต่อการโดนเปลี่ยนอะไหล่กับการเอาข้อมูลในเครื่องไปใช้เสียๆหายๆ
คือพูดง่ายๆ เจ๊งแล้วซื้อใหม่เลยนั่นแหละครับ...
แต่เครื่องนี้ผมรักมากนะ!
"เอางี้แล้วกันนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่มา" ผมกำลังจะอ้าปากถามแม่แล้วว่าจะทำยังไงก็พอดีกับที่แม่วิ่ง(?)ออกนอกบ้านไป... โธ่ แม่ครับ แม่ชิ่งอย่างงี้เลยหรอ TT
ผ่านไปเกือบสิบนาที..
สิบนาทีที่ยาวนานเหมือนเป็นชั่วโมงๆ
แม่ผมก็กลับมา..พร้อมกับใครอีกคนที่คุ้นๆ... อ๋อ! ผมนึกออกแล้ว ผิวเข้มๆแบบนี้มีคนเดียวในซอยนี่แหละครับ บ้านอยู่ถัดจากผมไปสองหลัง
"เข้ามาเลยจ้ะจงอิน" คิมจงอินนี่เอง...เขาหยุดมองหน้าผมนิดนึง ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มเศร้าๆให้เขาแทนคำทักทาย เราสองคนเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน ผมเรียนบริหาร ส่วนจงอินรู้สึกว่าจะเรียนวิศวะ...เดี๋ยวนะ..........วิศวะคอม!!!
ย๊า.....สวรรค์โปรด
"น้าทำโน้ตบุ๊คของเซฮุนเค้าดับแล้วมันเปิดไม่ติด เค้ารักมันมากแต่น้าก็ไม่ไว้ใจให้ร้านหรือศูนย์ซ่อมน่ะจ้ะ ช่วยซ่อมให้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ?"
"เดี๋ยวขอผมดูก่อนนะครับ" จงอินส่งยิ้มให้แม่ เขาเดินมาทำนู่นทำนี่กับโน้ตบุ๊คของผม ส่วนผมก็เสนอหน้าเข้าไปนั่งดูเขาทำด้วย
ท่าทางจะเกะกะเขานะผมเนี่ย
จงอินกับผมนั่งชิดกันซะจนไหล่เขาเกยไหล่ผม ส่วนแม่ก็มองผมสองคนด้วยสายตาภาคภูมิใจ....เดี๋ยวนะ ภาคภูมิใจหรอ? จู่ๆผมก็รู้สึกเขินขึ้นมาจนต้องขยับตัวนิดๆแล้วแกล้งถามเขาว่าโน้ตบุ๊คลูกรักผมเป็นอะไรแทน
"น่าจะเป็นกับตัวฮาร์ดดิสก์น่ะ ขอเอาไปซ่อมที่บ้านได้มั้ย?" เขาหันมาถามผมแบบกระทันหันจนหน้าเราห่างกันแค่นิดเดียว คราวนี้ผมก็เลยใบ้รับประทานสิครับ...
"อ-เอ่อ.."
"ตอบจงอินเค้าไปสิลูก อ้ำๆอึ้งๆอยู่นั่นแหละ" คุณแม่ผมยังยืนยิ้มอยู่เลยครับ ยิ่งเป็นแบบนี้แม่ก็ยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม ผมล่ะอยากจะบ้าตาย
สรุปคือแม่ผมชอบคิมจงอินสินะครับ!
แม่มีลูกคนเดียวก็คือผม ซึ่งเป็นผู้ชาย.....หวังว่าแม่คงไม่คิดอะไรแผลงๆหรอกนะ ยิ่งชอบคิดอะไรแปลกแหวกแนวไม่เหมือนชาวบ้านอยู่ด้วย ไม่อยากจะจินตนาการความคิดของแม่ในตอนนี้เลยให้ตายสิ
"เอาไปสิ อย่ารุนแรงกับมันนะ" เผลอทำหน้าอ้อนใส่ไปโดยไม่ทันห้ามตัวเอง พอทำไปแล้วก็ได้แต่อยากเคาะหัวตัวเองแรงๆ ยิ่งจงอินอมยิ้มที่มุมปากแบบนี้อีกนะ TT
"ได้สิ เดี๋ยวจะถนอมเหมือนมันเป็นลูกเลย"
โอ้พระเจ้าครับ...... นี่ผมกำลังโดนจงอินกับแม่รวมหัวกันแกล้งอยู่รึเปล่า ใครรู้ช่วยบอกผมที
"อ-อื้อ"
จงอินกลับไปแล้ว กลับไปพร้อมกับโน้ตบุ๊คลูกรักของผมด้วย ตอนที่ไปซื้อมันมีแต่สีนี้...สีชมพูแปร๊ดๆนั่นแหละครับ ความที่ผมอยากได้โน้ตบุ๊คมากประมาณว่ารอนานกว่านี้ไม่ได้แล้วก็เลยจำใจซื้อสีชมพูกลับมา
พอเพื่อนที่มหาลัยเห็นผมหอบไปทำงานที่ม.ก็พากันล้อเลียนผมใหญ่ หาว่าผมเป็นตุ๊ดมั่งล่ะ หาว่าผมเป็นเกย์มั่งล่ะ หาว่ามีผู้ชายซื้อให้มั่งล่ะ... อันหลังนี้แรงครับ แต่ผมก็ด้านพอยิ้มรับและยอมรับทุกคำครหาจนสุดท้ายพวกเพื่อนก็เลิกล้อกันไปเอง แถมมาหลังๆยังสนับสนุนบอกว่าผมเหมาะกับสีนี้แล้วอีกด้วยแน่ะ
"แม่ครับ"
"หื๊ม? ว่าไงจ๊ะ"
"แม่กำลังคิดอะไรอยู่ครับ?"
"เปล่านี่จ๊ะ คิดมาก ไปๆไปกินข้าวกันดีกว่า ค่ำแล้วนะลูก" ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าแม่ไม่ได้คิดอะไร -_-
.
Trrr Trrr
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมสั่นขึ้นมาอย่างแรงตอนผมกำลังเรียนอยู่ เป็นเพราะไม่ใช่วิชาเคร่งมากผมเลยก้มไปใต้โต๊ะแล้วหยิบออกมาดูว่าใครโทรมา
เบอร์ไม่คุ้นเลยแฮะ....เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็แล้วกัน
ดังนั้นผมจึงปล่อยให้มันสั่นและหยุดสั่นไปเอง พอหมดคาบจึงออกมาโทรกลับ
((ฮัลโหล))
"ครับ โทรหาผมรึเปล่า?"
((เซฮุนใช่มั้ย?))
"ครับ โอเซฮุนครับ ขอโทษนะครับ..นี่ใครหรอ?"
((จงอิน คิมจงอิน))
"...อ้อ จงอินหรอมีอะไรรึเปล่า?" สิ่งที่อยากถามมากกว่าคือเขามีเบอร์ผมได้ยังไงแต่ช่างมันเถอะ พอจะเดาได้อยู่...ไม่พ้นแม่ผมแน่ครับ
((จะคุยเรื่องลูกนายน่ะ เป็นเพราะฮาร์ดดิสก์เจ๊งจริงๆ ต้องเปลี่ยนใหม่ เมื่อเช้าไปหานายที่บ้านเจอแม่นายกำลังจะออกไปทำงานพอดี คุณน้าเลยให้เบอร์นายมา)) ว่าแล้วเชียว
"เปลี่ยนใหม่แล้วข้อมูลของฉันล่ะ?"
((ก็..เดี๋ยวฉันจะลองดูว่ามันสำรองไว้ได้มั้ย แต่คิดว่าได้นะ ย้ายไปไว้อีกไดร์ฟ นายจะให้เปลี่ยนเลยมั้ย?))
"เปลี่ยนเลยก็ได้ แพงรึเปล่า?" ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ช่วงนี้ขาดแคลนทุนทรัพย์....แต่เดี๋ยวนะ แม่ผมควรจะรับผิดชอบใช่มั้ยล่ะ หึหึ ผมไม่ออกเองหรอกเรื่องอะไรไม่ได้ทำพังซะหน่อย
((ไม่เท่าไหร่หรอก เดี๋ยวฉันไปถามอาจารย์ให้ว่าร้านไหนถูก แต่คงอีกหลายวันหน่อยนะนายรีบใช้รึเปล่า พอดีช่วงนี้ฉันทำโปรเจ็คด้วยน่ะ))
"อ้าว ถ้านายไม่ว่างไม่เป็นไรนะ แม่นี่ก็ไม่ถามนายเลยหรือไงว่านายว่างรึเปล่า"
((ฉันอาสาซ่อมให้เองแหละน่าไม่ต้องโทษคุณน้าหรอก ไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นยุ่งแค่สองสามวันนี้เอง))
"หรอ...ฉันรอได้ๆ ไม่ได้ใช้ทำอะไรหรอก"
((โอเค ถ้ายังไงเดี๋ยวรายงานอีกทีนะ))
แล้วเขาก็วางสายไป ผมเดินไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนที่ฝั่งตรงข้ามมหาลัยซึ่งเป็นเจ้าประจำ ไปจนป้าเจ้าของร้านแกจำหน้าได้ บางวันก็ฟรีน้ำ บางวันก็แถมเอาแถมเอา จะเจ๊งเพราะพวกผมมั้ยก็ไม่รู้นะเนี่ย
เนื่องจากช่วงบ่ายอาจารย์ไปสัมมนาพวกผมจึงสบายเพราะยกคลาส ยืนเถียงกันอยู่นานว่าจะทำอะไรกันดีสุดท้ายลงเอยด้วยการไปดูหนังแอคชั่นเรื่องดังที่เพิ่งเข้าฉายได้ไม่กี่วัน เป็นหนังแนวที่ผมไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่ มันเสียงดัง แล้วก็ไม่มีอะไรนอกจากไล่ฆ่ากันอย่างเอาจริงเอาจัง เว่อร์น่ะครับ ผมจึงขอแยกไปเดินเล่นรอเพื่อนดูหนังดีกว่า
ตอนแรกเพื่อนไม่ยอม แต่พอผมบอกว่าถ้าจะให้ผมดูก็เลี้ยงผมด้วยเท่านั้นแหละ แทบจะโดนถีบหัวส่ง....ช่างเป็นเพื่อนที่จริงใจอะไรอย่างงี้ครับ ดังนั้นผมจึงเตร่ไปเตร่มา แวะเล่นเกมเต้นไปสองสามตา ซื้อหนังสือการ์ตูนมาสองเล่ม แล้วก็ดีวีดีการ์ตูนอีกเรื่องนึง แค่นี้ก็หมดเงินไปเยอะแล้วครับ
เดินไปเดินมาแม่ก็โทรมาบอกว่าแม่ไปงานเลี้ยงคงจะกลับดึกมาก ให้หาอะไรกินเองแล้วก็ปิดบ้านดีๆ ..คงจะไปงานเลี้ยงตามประสาครูๆนั่นแหละครับ งานเลี้ยงเกษียณใครซักคนรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ
พ่อผมหรอครับ? พ่อผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุ 11 แล้วผมก็เลยอยู่กับแม่กันสองคน ซึ่งแม่ไม่เคยหวงผมเลยครับ -____- อาจมีห่วงบ้างแต่ไม่เคยหวงเลยนะ ทุกวันนี้ยังถามอยู่บ่อยๆว่ามีแฟนรึยัง
.
ดิ๊งด่อง ดิ๊งด่อง..
"อ้าว เซฮุน.." ผมส่งยิ้มแหยๆให้เจ้าของบ้านที่มองผมแล้วขมวดคิ้วนิดๆ "แวะมาเยี่ยมลูกหรอ?"
"อื้อ" จงอินเปิดประตูให้ผมเข้าไปในบ้าน เดินผ่านห้องครัวที่แม่ของเขากำลังทำกับข้าวอยู่ ผมแวะสวัสดีฝากเนื้อฝากตัว(?)แล้วจึงเดินตามจงอินขึ้นไปบนห้องนอน
"ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ต้องห่วง" ผมแอบยู่ปากอยู่ด้านหลังแผ่นหลังกว้างๆของเขา ผมไม่ได้ห่วงหรือกลัวเขาทำโน้ตบุ๊คผมเสียหายซะหน่อย แค่...ขามันพามาเฉยๆ สงสัยผมคงคิดถึงโน้ตบุ๊คมากเกินไป
"ไม่ได้ห่วงขนาดนั้น"
"แล้วทำไมมาบ้านฉันได้ล่ะ" นั่นสิ ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน
"..................ไม่รู้อ่ะ"
"คุณน้าไม่อยู่หรอ?"
"อื้อ แม่ไปงานเลี้ยงบอกว่าจะกลับดึกๆ" ดังนั้นจงอินจึงบอกให้ผมรออยู่นี่แล้วเดินลงไปชั้นล่าง ผมก็ทำตามอย่างเคร่งครัดคือรออยู่ในห้องเฉยๆ แต่มองไปรอบๆอย่างสำรวจ นี่หรอห้องนอนเด็กวิดวะ มีแต่โมเดลการ์ตูนเต็มเลย แต่เด่นที่สุดก็คงจะเป็นโน้ตบุ๊คลูกรักสีชมพูแปร๊ดของผมนั่นแหละ เด่นสุดในห้องละ จงอินลงไปไม่นานก็กลับขึ้นมา ผมเลยได้รู้ว่าเขาลงไปบอกแม่ว่าจะให้ผมอยู่กินมื้อเย็นด้วย จะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะแม่เขาขึ้นมาตามลงไปกินแล้ว
"ขอบคุณนะครับคุณป้า"
"จ้า....ตอนแรกป้าก็นึกว่าจงอินหอบโน้ตบุ๊คของสาวที่ไหนมา ที่ไหนได้ของเซฮุนนี่เอง ป้านึกว่าลูกป้าจะขายออก" แอบขำจนหลุดหัวเราะออกมานิดนึงตรงประโยคสุดท้าย ทำเอาจงอินมองเคืองๆ ผมเลยตักกับข้าวให้เขาแทนคำขอโทษ กว่าจะกินกันเสร็จแล้วก็ยกจานไปล้างก็สองทุ่มเข้าไปแล้ว
ผมกำลังจะกลับอยู่แล้วตอนที่จงอินหันไปพูดกับแม่ "ผมไปอยู่เป็นเพื่อนเซฮุนนะครับแม่"
"เอาสิลูก ไปนอนเป็นเพื่อนเซฮุนเลยก็ได้ กว่าแม่เซฮุนเค้าจะกลับมา" อยากจะบอกว่าไม่เป็นไรเหลือเกิน อยากจะบอกว่าผมอยู่คนเดียวได้ แต่อ้าปากบอกเขากับแม่ไม่ทันครับ...จงอินขึ้นบ้านไปเอาของเรียบร้อยแล้ว โธ่...อันที่จริงเราสองคนก็รู้จักกันมานานแล้วเพียงแต่ไม่ได้สนิทกันมากเท่านั้นเอง แค่ไปนอนเป็นเพื่อนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ผมช่วยจงอินถืองานเพื่อไปทำที่บ้านผม ที่จริงมันก็ไม่เยอะอะไรหรอกครับ ไอ่ผมเองก็มาตัวเปล่าอยู่แล้วมันเลยโล่งๆพอเห็นเขาถือจนอดช่วยไม่ได้ ถึงบ้านผมแล้วเราสองคนก็ล็อกบ้าน ขึ้นชั้นบนกันทันที ไม่มีโน้ตบุ๊ค ทีวีก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมนอนเลยดีกว่า
"ห้องฉันเล็กไปหน่อย" บ้านผมมีสองห้องนอนเหมือนบ้านของจงอิน ผมเสียสละให้แม่นอนห้องใหญ่ไปส่วนผมนอนห้องเล็ก สภาพสำหรับผู้ชายสองคนก็เลย..เหมือนจะแคบๆนะ
"ก็เท่าห้องฉันแหละ"
"นอนได้ใช่มั้ยอ่ะ?"
"ได้สิ" แล้วจงอินก็ทิ้งตัวนอนบนเตียงผม... เดี๋ยวนะ....แล้วผมล่ะ
"อ-เอ่อ งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ" จงอินหันมามองผมแล้วยิ้มให้ก่อนพยักหน้า ผมจึงหยิบผ้าขนหนูและเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมออกมาก็เจอเค้ากำลังนั่งทำงานอยู่ อืม...ให้ความรู้สึกเหมือนสามีรอภรรยามานอนพร้อมกันเลยแฮะ ไม่สิ ไม่ได้ๆ ต้องไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้สิ!
"ทำโปรเจ็คหรอ?"
"อืม ลองมาดูสิ" พอชะโงกหน้าไปดูก็เจอแต่แผงวงจรคอมพิวเตอร์ โอยเวียนหัว นี่มันน่าปวดหัวกว่าการเรียนบริหารของผมชัดๆ
"น่าปวดหัวมาก ไม่กวนแล้ว นายทำเถอะ ท่าทางต้องใช้สมาธินะ" เขาพยักหน้าหงึกๆแต่ดึงให้ผมนั่งลงข้างกัน ถึงจะงงๆแต่ผมก็นั่งตามเค้า
"ให้นั่งทำไมอ่ะ"
".................ไม่รู้.....แต่นั่งเถอะ"
แหม ที่แท้ก็ให้ผมมาเป็นเบาะพิงนี่เอง นั่งๆทำไปพอเมื่อยก็พาดแขนกับไหล่ผมแล้วเอนเอาไหล่มาพิงไหล่ผมไว้ แต่พอผมขยับตัวยุกยิกเค้าก็จะยกแขนออก ทำหน้าเหมือนสำนึกผิดที่ทำผมเมื่อยแต่ก็ทำอีกอยู่ดี ผ่านไปชั่วโมงนึงนั่นแหละเขาถึงทำเสร็จแล้วชวนผมเข้านอน
ผมเคลิ้มๆเกือบหลับแล้วตอนที่สัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นร้อนซึ่งแนบลงบนหน้าผากผมเบาๆก่อนผละออกไป
หน้าผมร้อนกว่าปากเขาอีกเถอะให้ตาย! ใจเต้นแรงขึ้นมาซะเฉยๆ การกระทำแบบนี้คือสิ่งที่เพื่อนทำกันหรอ ยิ่งเป็นเพื่อนผู้ชายเหมือนกันด้วยอีก...ดีนะที่เขาคิดว่าผมหลับแล้วและผมก็ไม่ได้ตกใจจนกระโตกกระตากออกไปให้รู้ว่าผมยังไม่หลับแถมตื่นเต็มตาแล้วอีกต่างหาก แอบหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆก็เห็นว่าเขานอนนิ่งลมหายใจสม่ำเสมอ เราตกลงนอนบนเตียงเดียวกันเพราะตอนแรกต่างก็แย่งกันจะนอนพื้น สุดท้ายเลยลงเอยแบบนี้
มันแนบชิดไปหน่อย..
ยิ่งเหตุการณ์เมื่อกี๊วิ่งผ่านมาในความคิดผมเท่าไหร่ เตียงของผมก็ยิ่งดูแคบลงเท่านั้น ไหล่ของเราที่แตะถูกกันเบาๆดูจะแนบชิดกันมากขึ้น...ถึงขั้นที่ว่าผมรับรู้ได้ถึงเสียงลมหายใจของเขาเหมือนดังอยู่ข้างหูยังไงยังงั้น...
กว่าจะหลับลง..
.
"ตายแล้ว! เซฮุน จงอิน" ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโหวกเหวกนั้นเพื่อพบกับแม่ผมเองที่ยืนอยู่ปลายเตียง ยอมรับครับว่าตกใจแต่ไม่ตกใจเท่าตอนรู้สึกตัวว่านอนกอดจงอินเอาไว้เกือบทั้งตัว...ผมรีบดีดตัวเองตกเตียงลงมาทันที
เจ็บก้นชะมัด
"ม-แม่!"
"ก็แม่น่ะสิ จะใครซะอีกล่ะ"
อยากจะร้องไห้จริงๆเลยครับ TT เมื่อคืนผมก็นอนออกจะนิ่งจนเกือบเกร็งเลยด้วยซ้ำ ผมไม่ใช่คนติดหมอนข้างนะสาบานได้ อะไรดลใจให้ผมไปกอดจงอินไว้แบบนั้นนะ แถมตอนผมสะดุ้งตื่น...จงอินก็ตื่นแล้วด้วยสิแต่นอนนิ่งให้ผมกอดอยู่แบบนั้นจนแม่เข้ามาเจอ
"ไม่เป็นไรหรอก เจ็บมากมั้ย?" เขาเข้ามาพยุงผมขึ้นยืนแล้วหันไปขอโทษแม่ "ขอโทษนะครับคุณน้าที่มาค้างโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ผมเห็นเซฮุนเค้าอยู่คนเดียว"
"น้าเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะจ้ะว่าจงอินมา น้าแวะเข้ามาดูเซฮุนตอนน้ากลับมา น้าไม่ว่าอะไรหรอกจ้ะ แต่ที่น้าตกใจคือลูกน้านอนกอดจงอินไว้ทั้งตัวซะขนาดนั้น..."
"ไม่เป็นไรครับคุณน้า ผม....ไม่ว่าอะไรหรอก" ให้ตายสิครับผมเห็นนะว่าแม่อมยิ้มตอนมองหน้าผมสลับกับจงอิน แต่พอแม่เห็นผมอ้าปากจะเถียงแม่ก็รีบเสไปถามเรื่องโน้ตบุ๊คผมกับจงอินทันที พวกเขาสองคนคุยกันและพากันลงไปคุยต่อชั้นล่างโดยก่อนไปแม่หันมาบอกให้ผมอาบน้ำแล้วรีบตามลงไปกินอาหารเช้า ผมก็ทำตามไม่ขาดตกบกพร่อง พอลงไปถึงเห็นจงอินกำลังจะกลับบ้านพอดี
"กลับแล้วหรอ?"
"อื้ม มีเรียนเก้าโมงครึ่งน่ะ" จงอินโบกมือลาผมแต่ผมตะโกนเรียกเขาไว้ซะก่อนแล้วพูดด้วยใบหน้าร้อนนิดๆ (แน่ใจว่าต้องแดงแน่)
"เมื่อคืนน่ะ...ขอบคุณนะที่มาอยู่เป็นเพื่อน" เขายิ้มรับท่าทางเคอะๆเขินๆของผมแล้วบอกว่ามีอะไรก็บอกเขาได้ตลอดนั่นแหละ อืม....ใจเต้นแรงขึ้นอีกแล้ว
"หน้าแดงแน่ะลูก"
"แม่อ่ะ"
"แม่นึกไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าแม่กลับดึกแล้วลูกจะไปหาจงอินที่บ้าน พาเค้ามานอนค้างซะด้วย" คุณแม่พูดไปจิบกาแฟไปแถมยิ้มขำด้วย
"แม่ครับ! ผมไม่ได้ชวนเค้ามานอนนะ....เค้ามาของเค้าเอง.." ท้ายประโยคก้มหน้าพูดเบาซะจนแม่ต้องเงี่ยหูฟัง
"โธ่! แม่ไม่ได้ว่าอะไรซักคำ จงอินเค้าก็น่ารักแถมนิสัยดี มาค้างบ่อยๆก็ได้แม่ไม่ว่า อยากนอนกอดกันก็กอดไปแม่ไม่ว่าอะไรหรอก"
"แม่!! นี่แม่จะสนับสนุนผมแบบนี้จริงๆหรอครับ แม่อยากให้ผมเป็นเกย์หรือไง ผมรู้ว่าแม่ชอบจงอินแต่นั่นผู้ชายนะครับแม่"
"แล้วไงจ๊ะ?"
"...แม่.............." ผมครางเสียงอ่อน แม่ยอมไปทำงานสายเพราะเรื่องนี้เลยเชียวหรอ นี่เรื่องใหญ่สินะครับ TT แม่ผมอยากให้ลูกชายคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้ชายด้วยกันอ่ะ
"แม่ไม่ฟิกซ์หรอกว่าลูกต้องเป็นนั่นเป็นนี่ แม่แค่อยากให้ลูกเปิดใจกว้าง มองอะไรให้กว้างๆอย่าเอาเพศมาเป็นตัวตัดสิน ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก สมัยนี้มีออกเยอะแยะ.. มันไม่ใช่เรื่องผิดถ้าจะรักจะชอบเพศเดียวกัน ยุคนี้มันยุคโลกาภิวัฒน์แล้วนะลูก"
"แต่ผม..."
"ไม่ได้ชอบจงอิน?" แม่ผมต่อประโยคแทนผมเสร็จสรรพ เอาเข้าจริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากจะพยักหน้ารับประโยคนั้นซักเท่าไหร่....
"เปิดใจหน่อยสิลูก"
"แม่พูดประโยคนี้อีกแล้ว แม่รู้อะไรมาหรือไงครับ?" แม่พูดเหมือนกับรู้อะไรมาบางอย่างอย่างงั้นแหละ แต่แม่ไม่ยอมบอกผม ไม่แม้จะปริปากพูดแล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ
"แม่ไปทำงานดีกว่า กินข้าวซะนะแม่ทำไว้ให้แล้ว แล้วก็เลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้านนะลูกนะ"
"..............ครับ" เอาเถอะครับคนอย่างแม่ผมลองไม่อยากบอกก็คือไม่อยากบอก ผมเลยไม่คาดคั้นเอาจากแม่อีก
.
แต่ไหนแต่ไรผมก็ไม่ใช่เด็กดื้อ....แม่บอกให้เปิดใจผมก็จะลองเปิดใจดู ขั้นแรกก็คือไปเดินโฉบคณะวิศวกรรมศาสตร์แล้วเดินเข้าไปหาตึกภาควิชาคอมพิวเตอร์เพื่อหาจงอิน....โทรศัพท์ก็มีนะแต่ไม่โทรอ่ะ
"เฮ้ย เด็กคณะไรวะ น่ารัก ตัวขาว ปากแดงแบบนี้ไม่มีแถวนี้แน่ๆว่ะ" เสียงแซวดังมาประปรายตลอดทางที่เดินไป อันที่จริงมันก็ถูกนะตั้งแต่เดินมาในเขตวิศวะเจอแต่คนดูบึกบึนทั้งนั้น
มีวิศวะคอมนั่นแหละหน้าตาดีหน่อย...หึหึ คิมจงอินก็เรียนนี่เนอะ ผมมองซ้ายมองขวา จริงๆแล้วโคตรโง่เลยครับที่มาโดยไม่โทรถามเขาก่อนว่าอยู่ภาคมั้ย...มาแบบนี้จะเจอได้ยังไงล่ะ เฮ้อ
"อื้อหือ มาหาใครคร้าบน้องสาวววว" น้องสาวพ่อ...ง -_- ผมตวัดสายตาไปมองคนพูดแล้วชักสีหน้าใส่ก็พอดีมีมือดีมาคว้าแขนผมไว้ เกือบจะหันไปด่าแล้ว มาแตะตัวผมได้ไงแต่กลับเป็นจงอินนั่นเอง
"ทำไมไม่โทรมาก่อน พวกนี้มันปากหมาจะตาย"
"ก็...อยากมาหา.......เฉยๆอ่ะ"
"ไปกินข้าวกัน หิวแล้ว" แล้วผมก็โดนจงอินจูงมือ ย้ำนะครับว่าจูงมือออกมาจากตรงนั้น แถมยังได้ยินเสียงพวกเพื่อนจงอินตะโกนแซวมาอีก
"โหวววว ไอ่ดำของเราฉกไปเลยนะมึง" จงอินชูนิ้วกลางอย่างหยาบคายคืนใส่เพื่อนแล้วพาผมเดินไปหาข้าวกินต่อ
"ทำไมทำใส่เพื่อนอย่างงั้นล่ะ หยาบคายมากเลยนะ" เขามองหน้าผมแล้วจับหัวผมโยกๆ
"เป็นเรื่องปกติน่ะ เดี๋ยวก็ชิน แต่ถ้าไม่ชอบก็จะไม่ทำแล้วกันนะ"
"อ-อื้อ" เอาล่ะครับ..ผมยอมรับว่ายังไม่ลืมสัมผัสอุ่นๆบนหน้าผากตัวเองเมื่อคืนหรอกนะ...แล้วยิ่งเขามาทำแบบนี้เข้าไปอีก เฮ้อ ใจเต้นแรงจนเหนื่อยเลยล่ะ
เราสองคนกินข้าวกลางวันด้วยกันแล้วเขาก็เดินไปส่งผมที่อาคารเรียน ไม่ได้ขึ้นไปส่งที่หน้าห้องนะครับ อันนั้นก็เกินไป จริงๆนี่ก็นับว่ามากแล้วแหละเกรงใจจะตายแต่เขาอาสามาส่งผมเองนี่นา แถมบอกด้วยว่าผมเลิกเรียนแล้วให้โทรหาจะพาไปซื้อฮาร์ดดิสก์ก่อนเขากลับบ้านไปทำงานที่ค้างไว้ของภาควิชาต่อ
.
"มาเอาโน้ตบุ๊คคืนหรอจ๊ะเซฮุน ขึ้นไปสิจ๊ะจงอินอยู่ข้างบน" หลายวันหลังจากนั้นจงอินก็โทรมาบอกผมว่าโน้ตบุ๊คผมใช้ได้แล้ว ผมรู้ว่าเขาเหนื่อยมากไหนจะงานโปรเจ็คของตัวเองแล้วยังต้องแบ่งเวลามาซ่อมโน้ตบุ๊คให้ผมอีกทั้งๆที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ผมไม่เคยเร่งเขาเลยนะครับแต่ดูเหมือนเพราะเหตุนั้นแหละที่ทำให้จงอินยิ่งเร่งซ่อมให้ผม
ดีใจนะที่จะได้โน้ตบุ๊คลูกรักคืนแล้วแต่ก็แอบใจหายเหมือนกัน...ไม่รู้เพราะอะไร...หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพอโน้ตบุ๊คซ่อมเสร็จแล้ว ระหว่างผมกับเขาก็หมดเรื่องที่จะต้องติดต่อกัน... ความจริงบ้านเราก็อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทุกๆครั้งที่ผ่านมาก็จะเอาเรื่องโน้ตบุ๊คเป็นหัวข้อหลักตลอด..
ทุบโน้ตบุ๊คให้พังอีกดีมั้ย.....?
เอ้อ...ผมคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน
ผมเดินขึ้นบ้านจงอินราวกับเป็นบ้านของตัวเอง ประตูห้องเขาก็ไม่เคาะแต่เปิดเข้าไปเลย ทึกทักเอาเองว่าก็สนิทกันแล้วนะคงไม่มีอะไรหรอกถ้าผมจะเปิดประตูผลั่วะเข้าไป แต่เข้าไปแล้วไม่เจอเจ้าของห้องน่ะสิได้ยินแต่เสียงฝักบัวในห้องน้ำเปิดอยู่ จงอินคงกำลังอาบน้ำ ดังนั้นผมจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเขา...เขาเปิดโน้ตบุ๊คส่วนตัวเอาไว้อยู่แต่เป็นเซฟโหมด
ผมรู้ว่าผมค่อนข้างเสียมารยาทที่อยากรู้ว่าภายในนั้นเก็บอะไรไว้บ้าง...จนเอื้อมมือไปเลื่อนเม้าส์ให้หน้าจอเดสก์ทอปมันกลับมา
"อ่ะ.." ตกใจจนเผลออุทานออกมาเบาๆ ที่เดสก์ทอปของจงอิน...เป็นรูปผมเต็มหน้าจอ
"เซฮุน..เฮ้ย!" เจ้าของห้องที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาก้าวยาวๆมาปิดหน้าจอโน้ตบุ๊คลงทันที ระยะห่างมันน้อยมากจนผมต้องเงยหน้าไปมอง สายตาผมลากผ่านขอบผ้าขนหนูซึ่งพันรอบเอวเขาไว้อยู่ ผ่านหน้าท้องที่มีมัดกล้ามกำลังพอดี ผ่านแผ่นอกพราวน้ำ ผ่านริมฝีปาก ผ่านสันจมูก จนไปสบตากับเขาพอดี...
"นาย...ตั้งแต่เมื่อไหร่?" ผมถามแล้วเม้มปากพร้อมกับกัดปากตัวเองไปด้วย มันยั้งไม่ทันตอนที่พลั้งปากออกไป
"..........นานแล้ว" ผมชักสีหน้าเคืองๆใส่เขาแล้วขยับออกห่างอีกนิด
"แม่ฉันรู้ใช่มั้ย?"
"รู้"
"นั่นไง" แล้วผมก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าจงอินยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า จึงออกแรงดันอกเขาออก "ไปใส่เสื้อผ้าสิจงอิน ฉันดูโน้ตบุ๊คนายนะ?" ถามแก้เขินไปงั้นแหละครับอันที่จริง ผมไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าร้อนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ TT
"เขินหรอ?" จู่ๆจงอินก็ชะโงกหน้ามาชิดผม เล่นเอาผมผงะเลยดีว่าเขาคว้าไว้ทันไม่งั้นผมได้หงายหลังลงไปกองอยู่บนพื้นห้องแน่
"ป-เปล่า ใครบอกว่าเขิน?" ผมเชิดสู้
"ฉันบอกอยู่นี่ไง..." มือหนาวางลงบนแก้มผมแล้วบีบสลับกับลูบเบาๆ ผมจึงขมวดคิ้วใส่แต่ไม่ได้ผลักไสออกไป จะมองเต็มๆตาก็ไม่กล้า....ตาผมอยู่ตรงกับแผ่นอกเขาพอดีเลยนี่ครับ
"เขินใช่มั้ยล่ะ...." เขาก้มหน้าลงมาใกล้ผมทั้งที่มือยังลูบแก้มผมอยู่อย่างนั้น "....ฉันก็เหมือนกัน" แล้วริมฝีปากของเราก็แตะกัน ผมสะดุ้งเล็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะเขาประคองใบหน้าผมไว้ผมจึงทำได้แค่เพียงจับข้อมือเขาแน่นและปล่อยให้เขานำทางต่อไป เราจูบกันอยู่นานแม้มันจะเป็นเพียงจูบธรรมดาไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเลยแต่มันก็ทำให้ร้อนขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากผละออกจากกัน ผมก็รีบฟุบหน้าลงกับโต๊ะเขาทันที ไม่สนใจด้วยว่าจงอินทำหน้าแบบไหนอยู่แม้จะได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบาๆและเสียงจงอินใส่เสื้อผ้าแต่ผมก็มุ่งมั่นกับการหลบหน้าเขาอยู่ดี
น่าอายชะมัด TT ยอมให้เขาจูบเฉยเลยไหนว่าไม่ได้ชอบเขาไง
แม่ครับ....อย่างงี้เรียกว่าเปิดใจกว้างงงงงงงงรึยัง TT
"เซฮุน" ผมสะดุ้งเฮือกก่อนจะค่อยๆหันไปมอง "คืนนี้นอนด้วยกันมั้ย?"
"ม-ไม่ จะกลับแล้ว" อยากตบปากตัวเองจริงเชียว จะเสียงสั่นไปทำไมให้เขารู้ว่าผมเขินเนี่ย แค่นี้ยังเสียหน้าไม่พอใช่มั้ยโอเซฮุน "กลับละนะ" ผมคว้าโน้ตบุ๊คลูกรักมากอดแนบอกแล้วตั้งท่าจะเดินออกนอกห้องนอนจงอินแต่กลับโดนคว้าไปกอดไว้ซะก่อน
"อย่าเพิ่งกลับสิ"
"อ้ะ ปล่อยนะจงอิน!" นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วยังกระชับกอดแล้วซุกหน้าลงที่ซอกคอผมอีกต่างหาก ฮืออออ ผมอายอ่ะ
"ไม่ปล่อยได้มั้ย....?"
".........ปล่อย....นะ" ผมบอกเสียงอ่อยจนเขายอมปล่อยผมเป็นอิสระแถมทำหน้าเศร้าให้ผมได้รู้สึกผิดไปด้วยอีก ผมเอื้อมมือไปเขย่าแขนเขาแล้วเลื่อนลงไปจับมือ "ไปส่งที่บ้านหน่อยสิ"
เขาเดินมากับผมแบบงงๆและไม่เปิดปากพูดอะไร ผมเองก็เงียบ...แต่มือเรายังจับกันอยู่นะครับ เขาจับมือผมเบามาก...เบาเสียจนผมแทบไม่รู้สึกว่าเขายังจับอยู่
กลับมาถึงบ้าน อันดับแรกที่แม่มองคือมือของเราสองคนที่จับกัน มองไปเถอะครับแม่..
"แม่ครับ คืนนี้จงอินนอนกับผมนะ" ผมยักคิ้วให้เด็กวิดวะคอมหน้าเหวอข้างๆก่อนที่แม่ผมจะยกยิ้มล้อ
"ลูกแม่พาผู้ชายเข้าบ้านเลยนะเนี่ย"
"แม่ไม่ว่าอะไรไม่ใช่หรอครับ"
"ไม่ว่าจ้ะ" ผมยิ้มให้แม่แล้วหันมาฉีกยิ้มใส่จงอิน ก่อนลากเขาขึ้นไปบนห้อง
"นายขโมยรูปจากโน้ตบุ๊คฉันไปเป็นเดสก์ท็อปตัวเองเพราะงั้นนายต้องโดนลงโทษนะ ขี้ขโมย" จงอินมองหน้าผมแล้วบอกหน้าตายว่าความจริงเขาเอาไปทั้งโฟลเดอร์เลย ผมจึงฟาดแขนเขาไปทีนึง "ขโมยจริงๆด้วย"
"ก็...นายน่ารักเองทำไมอ่ะ" ตายสนิทครับเจอมุขนี้ ผมหันหน้าหนีเขาแล้วแกล้งทำเป็นเปิดโน้ตบุ๊คเล่น
"มีแต่นายแหละโรคจิตชมผู้ชายว่าน่ารัก"
"ไม่ได้ชมผู้ชายไปทั่ว ชมนายแค่คนเดียว"
"นี่จีบอยู่ใช่มั้ย" ถามทั้งๆที่ยังทำเป็นสนใจกับโน้ตบุ๊คเครื่องเก่าแต่เหมือนใหม่ ผมไม่กล้าหันไปมองเพราะกลัวเขาจะรู้ว่าผมกำลังเขินขนาดไหน แต่ก็คงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่หรอก เพราะเขาคงรู้นานแล้ว
"จีบสิ เอ้อ..ถ้านายให้นอนค้างด้วยฉันโทรไปบอกแม่ก่อนนะ" จงอินคุยโทรศัพท์ส่วนผมเล่นโน้ตบุ๊คเพราะไม่รู้จะทำอะไร ความจริงอีกไม่กี่อาทิตย์ก็สอบปลายภาคแล้วนะแต่ผมยังทำเอ้อระเหยอยู่
"อ่านหนังสือแล้วหรอเซฮุน???"
"ยังเลย"
"อ่านได้แล้ว" ผมหันไปยู่ปากใส่เขาแล้วเดินเท้าสะเอวมาหยุดตรงหน้าเขาพอดี ทำให้เขาต้องเงยหน้ามามองผมงงๆ
"จะเป็นพ่อฉันหรอ บ่นเนี่ย"
"ขอเป็นพ่อคุณก็แล้วกัน จะไม่ปฏิเสธเลย" แล้วเขาก็ดึงผมลงไปนั่งตักเขา....นั่งตักเลยนะครับ! ตักนะ!
"ฮ-เฮ้" เขาหัวเราะยิ้มๆอยู่ในลำคอเมื่อเห็นผมพูดตะกุกตะกักแบบนั้น
"ทำให้หายเขินเอามั้ย?" คนเจ้าเล่ห์ เห็นผมไม่ว่าอะไรชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ตั้งแต่ที่บ้านเขาแล้ว....หาเรื่องจะจูบผมอีกล่ะสิ ผมยกมือมาปิดปากเอาไว้แน่นแต่เขาก็ยื่นหน้าเข้ามากดจมูกที่แก้มผมอีก TT
"นายฉวยโอกาสอ่ะ!"
"....ก็ชอบมาตั้งนานแล้วนี่นา"
"................แต่ฉันยังไม่ได้ชอบนายเลย" ผมพูดเสียงเบาแล้วก้มหน้า ผมไม่ปฏิเสธความรู้สึกของเขาที่มีต่อผมก็จริงแต่ก็ยังไม่แน่ใจในตัวเองเลย
"ไม่ชอบสักนิดเลยหรอ....?" มือหนาเชยคางผมให้กลับขึ้นไปมองในดวงตาเขา..ซึ่งมีแต่เงาของผมสะท้อนอยู่ในนั้น
"ช...นิดนึงก็ได้"
"อะไรนะ?"
"......ชอบนิดนึงก็ได้" ผมหลบตาวูบก่อนจะโดนจูบ....อีกครั้ง ผมกำเสื้อเขาแน่นจนยับกว่าเขาจะปล่อยผมจากสัมผัสอ่อนโยนแต่เหน็ดเหนื่อยนั่นแล้วถูกจับให้ไปซบอกเขา ผมเลยตอบสนองด้วยการซุกซุกซุก เอาให้จมไปเลย แต่จงอินกลับหัวเราะชอบใจ
"หัวเราะอะไรเล่า เดี๋ยวกัดเลย" ผมแยกเขี้ยวเอาฟันขูดผิวเนื้อที่อกเขาแล้วก็ซุกลงไปอีก เขาจึงลูบหัวผมเบาๆแล้วกอดแน่นจนล้มลงไปบนเตียงนอนด้วยกัน
"อ-อะไร" เขาเอาแต่มองหน้าผมแล้วลูบแก้มอยู่นั่นแหละจนผมต้องเอ่ยปากถาม เขาส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบแล้วทำแบบนั้นต่อไป ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับนอกจากหลบการกระทำชวนเขินนั้นด้วยการซบหน้าลงกับอกเขา...ซึ่งทำให้เขินกว่าเดิม
ถามว่าทำไมไม่ลุกออกก็ตอบได้ง่ายๆเลยครับว่าเขาล็อคเอวผมไว้เสียแน่นราวกับกลัวผมจะหายไปวินาทีใดวินาทีหนึ่งนี้ยังงั้นแหละ
"ไม่อาบน้ำอาบท่าหรือไง" ผมถามเสียงเบาเนื่องจากเราสองคนนอนท่านั้นกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ไม่รู้จะให้นอนท่านี้ไปถึงเมื่อไหร่
".......อาบ" จงอินตอบกลับมาอย่างเกียจคร้านพร้อมกับบิดขี้เกียจ ผมอาศัยจังหวะนั้นลุกขึ้นมานั่งบนเตียงดีๆและมองหน้าเขา เขาก็มองตอบก่อนลุกขึ้นมานั่งบ้าง
"ด้านหมดแล้วแก้มฉัน" เขายื่นมือมาลูบแก้มผมอีกแล้ว
"นิ่มออก"
"ไปอาบน้ำได้แล้ว ไปเลยยยยยย" พอจงอินยอมถอยทัพ(?)ไปแต่โดยดี ผมก็แทบจะกรี๊ด ปล่อยให้ตัวเองเขินแบบเต็มที่เป็นครั้งแรก หน้าร้อนเห่อไปหมด ผมต้องข่มอาการเขินไว้อย่างลำบากลำบน เพิ่งได้มาปลดปล่อยก็ตอนนี้ ทรมานชะมัดยาด TT
คืนนี้เราสองคนนอนข้างกันเหมือนคืนนั้นแต่ต่างจากเดิมมากทีเดียว...ตรงที่ผมอยู่ในอ้อมกอดเขาและเขากำลังจะจูบผมอีกแล้วถ้าไม่โดนผมเอามือปิดปากไว้ซะก่อน
"โนเวย์ พอแล้ว"
"นะ"
"ไม่เอา"
"นะ" ทำไมต้องทำเสียงอ้อนใส่ผมด้วยอ่ะ TT
".............นิดเดียวนะ" นิดเดียวของเขาเล่นเอาผมหายใจเกือบไม่ทัน อยากจะตีให้ตายคามือเลยเชียวนี่มันนิดเดียวบ้าอะไร ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้เขาทันทีแต่ก็ไม่พ้นอ้อมกอดอุ่นนี่อยู่ดีแถมยังโดนหอมผมอีก เล็บที่ยังไม่ได้ตัดของผมจึงจิกเข้าที่มือตุ๊กแกซึ่งโอบเอวผมไว้อยู่
"โอ๊ย!" เขาสะบัดมือเร่าๆแสดงความเจ็บปวด ผมจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนทำหน้าเครียดให้รู้ว่าผมโกรธอยู่ ...ได้ผล...เขาทำหน้าสลดลงทันที
"ขอโทษ"
"เด็กวิดวะหื่นแล้วก็เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่า?"
".....เปล่า" เอาล่ะ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนพูดมากอะไรอยู่แล้วออกจะฟังผมพูดซะมากกว่า แต่นี่ชักไม่สวยละล่ะ
"ราตรีสวัสดิ์นะ" ไม่สวยแล้วจริงๆด้วยแฮะ
"เดี๋ยวสิ จงอิน จงอิน! ลุกมาคุยกันก่อน" ผมเดินอ้อมไปที่อีกด้านของเตียงแล้วเขย่าๆตัวเขาแต่เขาก็ยังทำมึนไม่ยอมพูดกับผมอยู่ดี ".............จงอิน..." ผมเรียกเสียงอ่อย จำได้ว่าผมโกรธเขาอยู่นะแต่ทำไมตอนนี้เหมือนเขาจะเป็นฝ่ายงอนผมแทนซะล่ะ
"อ-อื้อ!" เขาคว้าผมลงไปบดจูบแล้วดูดดึงริมฝีปากผมซะจนผมกลัวว่ามันจะหลุดติดปากเขาไปด้วย เขาดึงผมให้ขึ้นไปนอนทับบนอกเขาแล้วลูบทั่วตัวผม ก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาและเกี่ยวลิ้นผมจนผมต้องยอมตอบสนอง นานทีเดียวกว่าเขาจะปล่อยให้แผ่นหลังผมสัมผัสกับเตียงแล้วนอนกอดผมไว้
"ขี้น้อยใจ แถมยังเอาแต่ใจตัวเองอีก" เขานอนเงียบไม่เถียงซักคำตอนที่ผมทุบหลังเขาแล้วต่อว่าหอบๆ เขาดึงผมไปกอดแน่นขึ้น "ปากฉันเปื่อยหมดแล้วเนี่ย"
"...นอนกันเถอะ ง่วงแล้วอ่ะ" จงอินพูดขึ้นเบาๆแล้วเอาหน้าซุกอกผมเตรียมตัวหลับเต็มที่ ผมรู้เขาหลับได้ตลอดเวลาแหละถ้าอยากจะหลับแล้วตอนนี้เขาก็เคลิ้มเต็มที่แล้วด้วย TT นี่ผมเลี้ยงลูกหรอครับ??
"ครับๆ หลับซะนะลูกนะ"
"อยากโดนจูบอีกหรอ?"
"ว้ากกกกกก เงียบแล้วนอนไปเลยถ้าไม่อยากโดนทุบอ่ะ"
"หึหึ ฝันดีครับ"
.
"บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมารับหรอก กลับเองก็ได้" ผมบอกคนข้างตัวอย่างอ่อนใจ เพราะทุกวันที่ผมมาเรียนเขาจะมารับผมกลับบ้านตลอดแม้กระทั่งวันสอบอย่างวันนี้ ทั้งที่ผมบอกว่าไม่ต้องมารับหรอก ปกติผมก็กลับเองแต่เขากำลังจะทำผมเสียนิสัยนะรู้สึก
"ก็อยากมารับแฟนมันแปลกตรงไหนกันล่ะ?"
"อย่ามั่วสิ นี่ช่วงคบหาดูใจอย่าโมเมเอาเองได้มั้ยง
"ยังกับดารา คบหาดูใจมันก็แฟนกันนั่นแหละ" ผมสนุกกับการจ้องมองใบหน้าหล่อของเขายุ่งด้วยความหงุดหงิดเพราะผมไม่ยอมรับเป็นแฟนเขาซักที ไม่ได้กั๊กนะครับแค่สนุกเวลาได้แหย่เขาแค่นั้นเอง
"ดูใจก็ส่วนดูใจ แฟนมันก็อีกสถานะนึง"
"เป็นแฟนกันเถอะ"
"โนว ดูใจกันไปก่อน ฉันไม่หนีไปไหนหรอกน่า หรือว่านายจะชิ่ง?"
"เปล่า ในเมื่อเป็นแบบนี้ทำไมเราไม่เป็นแฟนกันล่ะ" เขาจับหัวผมโยกไปโยกมาเบาๆ เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยแคร์สายตาคนอื่นที่มองมาแล้วล่ะครับในเมื่อครอบครัวเราสองคนก็รับได้ไม่ได้ว่าอะไร ทำไมเราจะต้องแคร์สายตาคนอื่นจนมากเกินไปด้วยล่ะ
"รอหน่อยสิจงอิน"
"เป็นเถอะ ไม่เป็นจับจูบเลยนะ"
"ฮ-เฮ้ เอาแต่ใจอีกแล้วนะ" ใบหน้าหล่อยื่นมาใกล้ผมจนผมกลัวใจเขา นี่มันในมหาลัยนะ ถ้าเป็นที่บ้านจะไม่ว่าซักคำ (ห๊ะ?)
"จูบจริงนะ" ริมฝีปากเขาโฉบลงมาจนแตะกันนิดนึงแล้วตอนที่ผมสะบัดหน้าหนีไปอีกทางแล้วหลับหูหลับตาตอบ
"ก็ได้! แฟนก็แฟน! อย่าจูบนะ!" ผมตะเบ็งเสียงซะดังลั่นจนคนที่ยืนอยู่รอบๆยังพลอยเป่าปากตบมือแสดงความยินดีกับเราสองคนด้วย
TT อายอ่ะครับ
มีแต่ไอ่คนข้างตัวผมนี่แหละที่ยิ้มหน้าบานอยู่คนเดียว
บ้า!
THE END.
ทอล์คทอล์คทอล์ค เดี๋ยวนี้จะไม่ไปลงในเด็กดีแล้วนะ งอน(?) โดนแบน ๕๕๕๕๕๕๕ ขอบคุณที่สนใจเข้ามาแวะอ่านนะคะ ถ้าชอบก็เม้นท์ ไม่ชอบก็ไม่ต้องเม้นท์ก็ได้ไม่เป็นไร ๕๕ แล้วแต่ศรัทธาและความเมตตาค่ะ -..-